โดยปกติแล้วเมื่อโดน ผึ้งต่อย หลายคนคงรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการเอาเหล็กในที่ฝังลงในเนื้อออกแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่าหลังจากเอาเหล็กในออกเรียบร้อย ก็อาจจะมีอาการอื่น ๆ เกิดขึ้นตามมาได้ วันนี้อองตองจะมาเล่าให้ฟังอย่างละเอียดเพราะเราทำงานร่วมกับผึ้งตัวน้อยมากว่า 40 ปี
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อโดน “ผึ้งต่อย”
ผึ้งต่อยเป็นอาการบาดเจ็บที่พบได้ทั่วไปเมื่อเราทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยส่วนใหญ่แล้วคนที่โดนผึ้งต่อยจะรู้สึกคล้ายถูกเข็มแทง รู้สึกปวด ร้อน หรือคันบริเวณที่โดนต่อยในทันที แต่อาการเจ็บปวดมักจะหายไปเองในช่วง 2–3 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม บางรายอาจเกิดอาการแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis) จากการถูกผึ้งต่อยได้ แม้ว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก แต่ก็ร้ายแรงจนเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงควรเรียนรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างถูกวิธีและสัญญาณของอาการแพ้อย่างรุนแรง เพื่อให้สามารถรับการรักษาได้ทันท่วงที
อาการที่เกิดขึ้นเมื่อโดนผึ้งต่อย
เมื่อโดนผึ้งต่อยปฏิกิริยาของแต่ละคนจะแตกต่างกันไป โดยมีตั้งแต่อาการปวดชั่วคราว ไม่สบาย ไปจนถึงปฏิกิริยาการแพ้อย่างรุนแรง การมีปฏิกิริยาอย่างหนึ่งเกิดขึ้นไม่ได้หมายความว่าเมื่อถูกต่อยครั้งต่อไปจะเกิดปฏิกิริยาเดิมซ้ำอีก บางครั้งหากโดนผึ้งต่อยซ้ำๆ อาจมีปฏิกิริยาที่รุนแรงขึ้นก็เป็นได้ ซึ่งปฏิกิริยาหลังจากโดยผึ้งต่อย สามารถแบ่งออกเป็น 3 ขั้นดังนี้
ปฏิกิริยาที่ไม่รุนแรง
โดยส่วนใหญ่แล้วคนที่โดนผึ้งต่อย มักมีอาการปวดแสบปวดร้อนในทันทีในบริเวณที่โดนต่อย เกิดรอยแดง บวมเล็กน้อยรอบๆ บริเวณที่โดนต่อย ซึ่งในคนส่วนใหญ่อาการบวมและปวดจะหายไปภายใน 2-3 ชั่วโมง
ปฏิกิริยาปานกลาง
คนบางคนเมื่อโดนผึ้งต่อยจะ มีปฏิกิริยารุนแรงขึ้นเล็กน้อย เกิดรอยแดงมากในบริเวณที่โดนต่อย อาการบวมตรงบริเวณที่โดนต่อยจะค่อย ๆ ขยายขึ้นใน 1-2 วันถัดไป
ปฏิกิริยาปานกลางสามารถรักษาได้ภายใน 5-10 วัน การเกิดปฏิกิริยาปานกลางไม่ได้หมายความว่าคุณจะมีอาการแพ้อย่างรุนแรงในครั้งต่อไป แต่บางคนจะมีปฏิกิริยาปานกลางเกิดขึ้นในแต่ละครั้ง ซึ่งหากเกิดปฏิกิริยาแบบนี้ ขอแนะนำว่าควรไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการรักษาและการป้องกัน เพื่อป้องกันการเกิดปฏิกิริยาที่รุนแรงขึ้นในครั้งถัดไป
ปฏิกิริยาการแพ้อย่างรุนแรง
ปฏิกิริยาการแพ้อย่างรุนแรงเมื่อโดนผึ้งต่อย อาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ และต้องได้รับการรักษาทันที ซึ่งปฏิกิริยาการแพ้อย่างรุนแรงมักจะเกิดขึ้นในคนส่วนน้อย โดยอาการที่แสดงออกมาจะเป็นอาการแพ้ต่าง ๆ ได้แก่ ปฏิกิริยาทางผิวหนัง เช่น ลมพิษ มีอาการคัน และผิวหน้าแดงหรือซีด หายใจลำบาก อาการบวมของลำคอและลิ้น ชีพจรไม่ปกติ ชีพจรเต้นอ่อน หรือเต้นเร็วเกินไป คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสีย วิงเวียนศีรษะ หรือเป็นลม สูญเสียสติ
คนที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรงต่อเหล็กในของผึ้ง มีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ได้ 25%-65% ในครั้งต่อไปที่โดนผึ้งต่อย ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดก็คือการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ เพื่อหาทางป้องกัน เช่น ฉีดวัคซีนป้องกันโรคภูมิแพ้ เพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาที่อาจจะคล้ายกับกรณีที่คุณโดนผึ้งต่อยอีกครั้ง
การโดนผึ้งต่อยมากกว่าหนึ่งครั้งอาจทำให้เกิดการสะสมพิษ จนทำให้เกิดปฏิกิริยาที่เป็นพิษและทำให้รู้สึกไม่สบาย จนแสดงอาการต่าง ๆ เหล่านี้ออกมาได้ เช่น
- คลื่นไส้
- อาเจียน หรือท้องเสีย
- ปวดหัว วิงเวียน
- ชัก
- เป็นไข้
- เป็นลม
ซึ่งการโดนผึ้งต่อยหลายๆ ครั้งก็สามารถกลายเป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ได้ในเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจหรือการหายใจ
ทำไมผึ้งถึงต่อยเรา?
สาเหตุที่ผึ้งจะต่อยนั้นเกิดจากการที่ผึ้งเห็นเราเป็นภัย เลยป้องกันตัวเองจากการรบกวนของมนุษย์ด้วยการต่อย และหลังจากปล่อยเหล็กในแล้ว ผึ้งบางชนิดก็จะตาย โดยในการต่อยแต่ละครั้ง ผึ้งอาจปล่อยเหล็กในฝังอยู่ในผิวหนังของมนุษย์ได้ ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ที่แพ้เหล็กในของผึ้ง พิษจากเหล็กในจะยิ่งส่งผลให้เกิดอาการรุนแรงยิ่งขึ้น
6 ข้อควรทำหากคุณไม่อยากถูกผึ้งต่อย
1. กำจัดขยะและเศษอาหารบริเวณบ้านเพื่อไม่ให้มีผึ้งมาตอม
2. กรณีที่ต้องเดินทางเข้าไปในพื้นที่ที่มีผึ้งชุกชุมหรือออกไปกลางแจ้ง ไม่ควรใส่เสื้อผ้าสีฉูดฉาด ลายดอกไม้ หรือใส่น้ำหอม ซึ่งล่อให้ผึ้งมาต่อยได้
3. อย่าแหย่หรือทำลายรังผึ้ง และเตือนเด็ก ๆ อย่าไปแหย่รังผึ้งด้วยความคะนอง
4. ถ้ามีรังผึ้งภายในบริเวณบ้าน ควรตามผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมากำจัดรังผึ้งแทน
5. สำหรับผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการถูกผึ้งต่อย (เช่น พนักงานป่าไม้ นักเดินป่า ลูกเสือเวลาออกค่าย เป็นต้น) ควรมีชุดปฐมพยาบาล (เช่น ยาฉีด adrenalin ยาแก้แพ้ ครีม steroid )ไว้ปฐมพยาบาลเมื่อถูกผึ้งต่อย
6. ถ้าถูกผึ้งต่อย ควรวิ่งหนีโดยเร็วที่สุด ให้ห่างจากรังเกิน 7 เมตรขึ้นไป และควรใช้ผ้าคลุมศีรษะป้องกันไม่ให้ตัวผึ้งไปติดอยู่ในผมซึ่งจะต่อยซ้ำ ๆ ได้
หากโดนผึ้งต่อย ควรทำอย่างไร
เมื่อถูกผึ้งต่อยแล้ว ควรรีบนำเหล็กในออกจากแผลทันทีโดยใช้ปลายเล็บหรือมุมบัตรแข็งดันเหล็กในออกมา จากนั้นล้างแผลให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่เพื่อบรรเทาความรุนแรงของอาการ ประคบน้ำแข็งบริเวณที่โดนต่อยประมาณ 20 นาที ทุก ๆ 1 ชั่วโมง
หากมีอาการคันหรือบวม สามารถกินยาแก้แพ้ (Antihistamines) เช่น ยาไดเฟนไฮดรามีน (Diphenhydramine) หรือยาลอราทาดีน (Loratadine) หรือหากรู้สึกปวดก็สามารถกินยาพาราเซตามอล (Paracetamol) หรือยาไอบูโพรเฟ่น (Ibuprofen) เพื่อบรรเทาอาการ
นอกจากนี้ แผลผึ้งต่อยยังสามารถบรรเทาอาการในเบื้องต้นได้ด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น
- ทาน้ำผึ้งลงบนบริเวณที่ถูกต่อยเล็กน้อย เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บ คัน และรักษาบาดแผล
- นำเนื้อของใบว่านห่างจระเข้สดมาประคบลงบนแผลเพื่อบรรเทาความเจ็บ
- นำเบคกิ้งโซดา (Baking Soda) ผสมน้ำเล็กน้อย ทาลงบนแผลและปิดปากแผลด้วยพลาสเตอร์ เพื่อบรรเทาอาการเจ็บ คันและบวมที่เกิดจากพิษของผึ้ง
- ผสมน้ำมันลาเวนเดอร์เข้ากับน้ำมันมะพร้าว และหยดลงบนบาดแผล 2–3 หยด ซึ่งน้ำมันลาเวนเดอร์มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและบรรเทาอาการบวม
- ทายาไฮโดรคอร์ติโซน (Hydrocortisone) หรือคาลาไมน์ (Calamine Lotion) เพื่อลดรอยแดงและบรรเทาอาการคัน
ทางเลือกที่ดีที่สุด
หลังจากที่ได้ทราบข้อมูลทั้งหมดแล้ว ทางเลือกที่ดีที่สุดคงเป็นการหลีกเลี่ยง ไม่เข้าใกล้ผึ้ง หากเราไม่มีความเชี่ยวชาญ หากพบเห็นรังผึ้งในบริเวณที่พักควรติดต่อให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาจัดการโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อคนที่เรารัก
ถ้าหากคุณอยากได้น้ำผึ้งธรรมชาติที่หวานอร่อย ก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้าป่าเพื่อตามหาด้วยตัวเอง เพราะที่ อองตอง การทำงานร่วมกับผึ้งเป็นงานถนัดของเรา เราคัดสรรคุณภาพระดับพรีเมียมในน้ำผึ้งทุกหยดของเรา จากฟาร์มเกษตรกรที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน (GAP) นำมาผ่านกระบวนการผลิตและบรรจุ โดยโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานกระบวนการผลิตในระดับสากล ให้คุณมั่นใจได้ว่าน้ำผึ้งของเราเป็นน้ำผึ้งแท้และไม่มีสารเจือปน
เรามีน้ำผึ้งหลากหลายรูปแบบและหลากหลายรสชาติให้เลือก เช่น น้ำผึ้งดอกลำไย น้ำผึ้งดอกกาแฟ น้ำผึ้งดอกคอแลน น้ำผึ้งดอกลิ้นจี่ และน้ำผึ้งดอกไม้ป่า ซึ่งเป็นการเพิ่มกลิ่นและรสชาติจากเกสรดอกไม้และพันธุ์พืชโดยกระบวนการสร้างน้ำผึ้งตามธรรมชาติของผึ้งที่เราเลี้ยงและดูแลเอง ทำให้น้ำผึ้งที่ได้มีรสชาติ กลิ่น และสี ที่แตกต่างกันตามเกสรนิดต่างๆ
เติมความอร่อยและกลิ่นหอมจากธรรมชาติแบบไม่จำเจให้กับทุกเมนู